โรงเรียนวัดฉัททันต์สนาน
ประวัติความเป็นมาและข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน
โรงเรียนวัดฉัททันต์สนานเดิมมีชื่อว่า โรงเรียนประชาบาลตำบลพร่อน ๓
บ้านทุ้งฝ้าย ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ บ้านทุ่งฝ้าย ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส นาย
ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ นายหม็อง ยอดดี(ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่๑ ตำบลพร่อน) ได้ร่วมกับราษฎรในหมู่ที่๑ ตำบลพร่อน และหมู่ที่๔ ตำบลบางขุนทอง ก่อสร้างอาคารเรียนถาวรในที่ดินของวัดฉัททันต์สนานจึงได้ย้ายจากโรงเรียนเดิมมาเรียนที่อาคารใหม่ และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนวัดฉัททันต์สนาน
ปัจจุบันโรงเรียนได้เปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่๖ มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น ๑๑๗ คน มีบุคลากรปฏิบัติงานทั้งสิ้น ๗คน
ปรัชญา วิสัยทัศน์ และจุดมุ่งหมายของโรงเรียน
ปรัชญา การเรียนดี มีจริยธรรม นำชุมชน รณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม
วิสัยทัศน์ การจัดการศึกษามุม่งเน้นการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม ระเบียบวินัย และค่านิยมที่พึงประสงค์ ส่งเสริมทักษะในการใช้ภาษาไทยเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ นำเทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่เหมาะสมผู้เรียนสามารถนำมาใช้ในการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
จุดมุ่งหมาย หลักสูตรสถานศึกษาข้นพื้นฐานมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพเมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๑ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๒ มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การแก้ปัญหา การคิดแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต
๓ มีสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี มีอุปนิสัยและรักการออกกำลังกาย
๔ มีความรักชาติ สำนึกในความเป็นไทยและเป็นพลเมืองโลก ยึดมั่นในศาสนา และพระมหากษัตริย์
๕ มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะที่มุ่งประโยชน์ และการอยู่ร่วมกับสังคมอย่างมีความสุข
บริบท ลักษณะของชุมชนหรือท้องถิ่นที่อยู่รอบบริเวณโรงเรียนเป็นอย่างไรและมีส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาอย่างไร
รอบๆโรงเรียนชาวบ้านสวนใหญ่มีอาชีพทำนา ทำไร่ และเกษตรกรรมต่างๆ และเนื่องจากชาวบ้านมีอาชีพทำนาทำไร่ ชาวบ้านจึงอยู่แบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมีอะไรก็แบ่งปันกันเสมอ เวลาโรงเรียนมีการจัดงานชาวบ้านก็จะนำอาหารมาแบ่งปัน และช่วยเหลือโรงเรียนเป็นอย่างดี ชาวบ้านได้เข้ามามีส่วนร่วมคือ ได้เข้ามาเป็นคณะกรรมการของโรงเรียนด้วย
การพัฒนาหลักสูตรจากหลักสูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ สู่หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนมีกระบวนการพัฒนาหลักสูตรอย่างไร แต่ละกระบวนการมีอุปสรรค/ปัญหาและแก้ปัญหานี้อย่างไร
การพัฒนาหลักสูตร มีความหมายอยู่ ๒ นัย คือ
การทำหลักสูตรที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น
การทำหลักสูตรขึ้นมาใหม่/สร้างใหม่
วิธีการพัฒนาหลักสูตร มีหลายวิธี เช่น
๑ การพัฒนาหลักสูตรจากเบื้องบนสู่เบื้องล่าง
๒ การพัฒนาหลักสูตรจากเบื้องล่างสู่เบื้องบน
๓ การพัฒนาหลักสูตรแบบสาธิต
๔ การพัฒนาเชิงปฏิบัติการ
กระบวนการในการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียนวัดฉัททันต์สนาน ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ๖ ขั้น ตอนคือ
๑ การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน คือ ข้อมูลทางด้านความต้องการ ความจำเป็นและมีปัญหาของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง นโยบายการศึกษาของรัฐ
๒ การกำหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ให้สอดคล้องกับข้อมูลขั้นพื้นฐาน รวมคุณสมบัติของโรงเรียนจนมีหลักสูตรนั้นๆ เช่น ผ่านการประเมินทุกสาระการเรียนรู้ จะต้องสมรรถภาพสำคัญ ๕ ข้อ (สื่อสาร คิด แก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี) ผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
๓ การกำหนดเนื้อหาและประสบการณ์เรียนรู้ จัดลำดับเนื้อหา โดยกำหนดว่าเนื้อหาใดเป็นพื้นฐานและเนื้อหาใดควรเรียนก่อนหลัง
๔ การนำหลักสูตรไปใช้ เป็นขั้นตอนการแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน ซึ่งสำคัญมาก และเกี่ยวข้องกับครูผู้สอนโดยตรง หลักสูตรจะประสบความสำเร็จหรือไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ ผู้บริหาร ครู จะต้องศึกษาเพื่อทำความเข้าใจถึงวิธีการที่จะใช้หลักสูตรให้เกิดความชำนาญ และสัมฤทธิ์ผล
๕ การประเมินผลหลักสูตร ดำเนินการประเมิน ๒ ขั้นตอนคือ
๑ ประเมินเอกสารหลักสูตร ว่ามีองค์ประกอบครบถ้วนหรือไม่
๒ ประเมินผลการใช้หลักสูตร ว่าเมื่อทำหลักสูตรไปใช้แล้ว ผู้เรียนจบหลักสูตรไปแล้วมีคุณสมบัติ มีความรู้ ความสามารถ ตามที่หลักสูตรได้กำหนดไว้หรือไม่
ในแต่ละชั้นปี มีรายวิชาเพิ่มเติมและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอะไรบ้างที่โรงเรียนจัดให้แก่ผู้เรียน
โรงเรียนได้มีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนคือ มีกิจกรรมนันทนาการเพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียนและเป็นการส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงออก
นอกจากคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทั้ง ๘ ด้านและสมรรถนะสำคัญทั้ง ๕ ด้านแล้ว หลักสูตรสถานศึกษาได้เพิ่มคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญเพิ่มเติมหรือไม่
ไม่มีเพิ่มเติม
โรงเรียนมีนโยบายอย่างไรบ้างในการนำหลักสูตรไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียน
นโยบายของโรงเรียน คือ การจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดย
๑ จัดการเรียนรู้ตามโครงสร้างของหลักสูตรครบทั้ง ๘ กลุ่มสาระและรายวิชาเพิ่มเติม โดยยึดมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะของผู้เรียน ละคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นสำคัญ
๒ การจัดตารางเรียน จัดบูรณาการระหว่างหลักสูตรสถานศึกษา และการจัดการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมของโรงเรียนวังไกลกังวล โดยเน้นวิชาหลัก คือ วิชาภาษาไทย วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาภาษาอังกฤษ
๓ การจัดและประเมินผล จัดให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ โดยมรการประเมินระหว่างเรียนตามสภาพจริง ซึ่งจะใช้ Rubric ในการประเมิน โดยมีการกำหนดประเด็นการประเมินคุณภาพและระดับคะแนนของการทดสอบ โดยมีการกำหนดตัดส่วนคะแนนอย่างเหมาะสมกัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งมีการกำหนดดังนี้
ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ๗๐: ๓๐
สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และภาษาอังกฤษ ๘๐: ๒๐
โรงเรียนได้จัดกิจกรรมหรือโครงการอะไรบ้างที่เป็นการส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียน
๑ โรงเรียนได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการออกกำลังกายในตอนเช้าของทุกๆวัน วันละ ๑๕ นาที
๒ มีการจัดการเรียนการสอนเพิ่มเติมนอกเวลาเรียน
๓ มีการจัดกิจกรรม นันทนาการ เช่น ร้องเพลง ในทุกๆวันศุกร์
หลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนมีกระบวนการประเมินผลหลักสูตรอย่างไร
การวัดและประเมินผลหลักสูตร (ดูที่คุณภาพผู้เรียน คือ ผลสัมฤทธิ์ของการเรียน และคุณลักษณะของผู้เรียน) ซึ่งโรงเรียนได้ดำเนินการดังนี้
จัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่งว่าด้วยการตัดสินผลการเรียน
› การให้ระดับผลการเรียน
› การเลื่อนชั้น
› การสอนซ่อมเสริม
› เกณฑ์การจบการศึกษา
ข้อคิดสำหรับนักศึกษาครูเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร
๑ นักศึกษาควรศึกษาให้แตกฉานในเรื่องหลักสูตร
๒ การศึกษาบริบทของโรงเรียนที่จะไปอยู่
๓ การวางแผนการทำงานให้เป็นระบบ
๔ ควรมีสัมมาคารวะต่อครูที่อาวุโสกว่า